วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Palio : เขาใหญ่


หอนาฬิกา @ Palio
ป้ายทางเข้า @ Palio
        Palio : Khao Yai สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงแห่งใหม่ของเขาใหญ่ ซึ่งหุ้นส่วนเป็นเจ้าของเดียวกับ Pri-mo Posto สร้างด้วยด้วยถาปัตยกรรมแบบอิตาลี โดยได้ออกแบบและก่อสร้างเป็นกลุ่มอาคารถนนคนเดิน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณ Palio Khao Yai จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหมที่กำลังจะได้รับ ความ นิยมจากนักท่องเที่ยวในไม่ช้านี้ที่จะทำให้ นักท่องเที่ยวอย่างเราตื่นตาตื่นใจแห่งการช้อปปิ้งกับ อาณาจักรใหม่ เหมือนจำลองเมืองยุโรปขนาดย่อมมาไว้ที่นี่ เขาใหญ่
สถาปัตยกรรมอันงดงาม @ Palio
               Palio Khao Yai ได้ออกแบบและก่อสร้างเป็นกลุ่มอาคารถนนคนเดินด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป มีร้านเล็กๆเป็นแนวลดหลั่นเรียงกัน รอต้อนรับลูกค้า และผู้มาเยือนจากที่ต่างๆ ประมาณ 120 ร้านค้า โดยการจัดสรรพื้นที่บริการและขายสินค้าหลายประเภท เช่น ของแต่งบ้าน เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ งาน design ต่าง ๆ ร้านไวน์ Coffee Shop, Pub& Restaurant, Bakery ร้านเสริมสวย Spa ร้านขายยา ร้านขายหนังสือ ศูนย์อาหาร ร้าน IT ฯลฯ
น้ำพุ @ Palio
บรยากาศภายใน @ Palio

               รวมทั้ง อีกหลากหลายพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ได้แก่ สวนหย่อม น้ำพุ ลานอเนกประสงค์ สำหรับจัดการแสดง หรือดนตรี หรือเปิดตัวสินค้าใหม่ ห้องแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ และห้องพักบูติค แต่ละร้านจะได้รับการออกแบบ ให้มีสไตล์ และเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่กลมกลืนไม่แปลกแยก ในภาพรวม ประกอบกับภูมิทัศน์ล้อมรอบ ที่ดำรง ความเป็นธรรมชาติของเขาใหญ่







ภาพสวยๆๆ โดยตากล้องส่วนตัว @ Palio


ภาพสวยๆๆ โดยตากล้องส่วนตัว @ Palio



Laem Prom Thep, PHUKET : แหลมพรหมเทพ



บรรยากาศแหลมพรมเทพตอนเย็น

          ในบรรดาสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่ขึ้นชื่อของเมืองไทย เชื่อแน่ว่านักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยคงต้องนึกถึง “ แหลมพรหมเทพ ” ที่จังหวัดภูเก็ต เพราะมีหลายสิ่งที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ เช่นจุดชมวิวอยู่บนชะง่อนเขา ซึ่งมองเห็นทะเลอันเวิ้งว้างได้รอบทิศ และบริเวณนั้นก็ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นภาพที่มีเสน่ห์ มีมนต์ขลัง ชวนให้หลงไหล
เก็บภาพที่ระลึก With my mother ^^
          แหลมพรหมเทพถือว่าเป็นสถานที่โรแมนติกแห่งหนึ่งของเกาะภูเก็ต หลายคู่มักชวนกันมานั่งชมพระอาทิตย์ตก ดื่มด่ำกับบรรยากาศใน ยามเย็นที่มองเห็นระลอกคลื่นแต่ไกล ทอดอารมณ์และปล่อยความรู้สึกไปกับทะเลที่ระยิบระยับอันกว้างไกล มีท้องฟ้าเป็นฉากขนาดใหญ่ อยู่เบื้องหน้า มองเห็นดวงอาทิตย์ลูกกลมสีแดงสดค่อยๆทอดตัวลงแตะขอบน้ำแล้วก็จมหายไป เหมือนเป็นการปิดฉากละครเวทีของธรรมชาติ ที่หลายร้อยชีวิตกำลังจ้องมองดูอย่างประทับใจ ก่อนที่เวทีขนาดยักษ์นี้จะค่อยๆมึดลงและผู้ชมต่างทะยอยลุกจากที่นั่ง
บรรยากาศตอนเย็นคนเยอะมาก
        ปัจจุบันแหลมพรหมเทพ กลายเป็นแหล่งนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ที่พอถึงช่วงเย็น ก็จะมารวมกันที่นี่โดยมิได้นัดหมาย ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้ จอดกันเต็มลาน จนกลายเป็นตลาดนัดที่ขายสาระพัดบนเขาสูงของเกาะภูเก็ต แต่พอหลังพระอาทิตย์ตกผ่าน พ้นไปแล้ว รถทุกชนิดก็มุ่งหน้าลงเขาไปพร้อมๆกัน จากนั้นทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติ แหลมพรหมเทพจึงมีสภาพที่คึกคักในช่วงเวลา เพียงแต่ 2-3 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกเท่านั้นเอง
        เสน่ห์ของแหลมพรหมเทพ จะเขียนบรรยายให้สวยหรูอย่างไรก็ไม่มีความหมาย หากไม่ได้มาเห็นด้วตาตนเอง และโดยส่วนตัวผมแล้ว ก็เห็นว่า ที่นี่แหละ เป็นจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย นอกจากคนไทยจะประทับใจแล้ว ชาวต่างชาติไม่น้อยก็พลอยชื่นชมไปด้วย เพราะหากดูนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่แล้ว จำนวนไม่น้อยที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคิดว่า แหลมพรหมเทพ น่าจะเป็นโปรแกรมสำคัญของการท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ต
พระอาทิตย์ตก @ แหลมพรมเทพ
        บางคนบอกว่าแหลมพรหมเทพ เป็นอัญมณีที่ช่วยเติมแต่งให้ ภูเก็ต หรือฉายา “ ไข่มุกแห่งอันดามัน “ มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

วัดฉลอง (หลวงพ่อแช่ม) หรือวัดไชยธาราม ,,KHUKET

ภาพเจดีย์ภายในวัด

จังหวัดภูเก็ตนอกจากจะมีชายหาด และทะเล ที่สวยงามขึ้นชื่อแล้ว ภูเก็ตยังมีวัดวาอารามหลายแห่งที่สำคัญมากมายเป็นที่เลื่อมไส ศรัทธา และมีสถาปัยกรรมที่สวยงามอีกด้วย นั่นคือ วัดฉลองภูเก็ต หรือ วัดไชยธาราม
วัดฉลอง ภูเก็ต หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัดไชยธาราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ถ้าใครมาภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง อีกทั้งที่วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา วัดฉลองแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ตอีกแห่งที่ใครๆที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาวัดแห่งนี้ 



วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) 
ว่ากันว่าหากมาถึงภูเก็ตแล้ว ควรได้เดินทางมาไหว้หลวงพ่อแช่มที่วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม วัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ กิตติศัพท์ในการรักษาโรค บุญญาบารมี และเมตตาธรรมที่สูงส่งของหลวงพ่อทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก เล่ากันว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น ถึงกับมีผู้ที่รอปิดทองตามแขนและขาของท่าน จนแลดูเหลืองอร่ามไปทั่วราวกับปิดทองพระพุทธรูป และแม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นเวลานับหนึ่งร้อยปีมาแล้วก็ตาม ชื่อเสียงเกียรติคุณและบารมีของท่านก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมา ทุกวันนี้หลวงพ่อแช่มยังคงเป็นที่พึ่งพาทางจิตใจให้กับชาวภูเก็ต และชาวไทยทั่วทุกภาคหรือแม้แต่เพื่อนบ้านผู้มาเยือนดินแดนไข่มุกแห่งอันดามันนี้เสมอ
ประวัติตอนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มนั้นเล่าว่าในปี พ.ศ.2419 ซึ่งตรงกับสมัยของรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อแช่มได้ช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกอั้งยี่ ชาวกรรมกรเหมืองแร่ที่ได้ก่อเหตุจลาจล ไล่ฆ่าฟันโจมตีชาวบ้านและจะยึดครองเมืองภูเก็ต ในครั้งนั้นหลวงพ่อได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันอันตราย ซึ่งได้สร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจให้กับชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก และใช้วัดฉลองเป็นที่มั่นราวกับป้อมค่ายที่ใช้ในการต่อสู้ จนกระทั่งสามารถเอาชนะพวกอั้งยี่ได้ เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงทราบความจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่ม เป็นพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์แห่งเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในสมัยนั้น และได้พระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยธารารามแต่นั้นมา
with my father ^^



วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"KOH TAPO"

เขาตะปู " 2010
                เขาตะปู  ลักษณะเป็นแท่งหินใหญ่
มหึมาโดดเด่นปักอยู่ในทะเลบริเวณปากอ่าวพังงา
ใกล้ๆ กับเขาพิงกัน ซึ่งเมื่อมองจากระยะไกลแล้ว
จะเห็นมีลักษณะคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ถูกตอกลึก
ลงไปในน้ำ อย่างไรก็ตาม เขาตะปูเป็นภูเขาที่มี
อันตรายห้ามเข้าใกล้เนื่องจากส่วนที่จมอยู่ใต้ทะเล
ได้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ เป็นเวลานานนับล้านปี
จึงสึกกร่อนและมีขนาดเล็กกว่าส่วนบน มากมาย
หลายเท่า จนมีความกลัวกันว่าอาจล้มลงมา
ในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ ทางราชการและเจ้าหน้าที่
จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ห้ามนักท่องเที่ยว
ล่องเรือเข้าไปดูใกล้ๆ โดยเด็ดขาด เนื่องจาก
เกรงว่าจะได้รับอันตรายดังกล่าว


เขาตะปู "2010